ถึงเวลาของ Alex Gunnar Solskjaer
ต้องเรียกว่า สาวก ผีแดง พอได้ลืมตาอ้าปากกันได้บ้างเลยทีเดียว หลังจาก อยู่ภายใต้ความอึมครึม ของสถานการณ์ของทีม ที่นำโดยผู้จัดการคนเก่าอย่าง โจเซ่ มูริญโญ่ มันเป็นปีที่อึดอัดอีกปีหนึ่งของสาวก ผีแดงเลยก็ว่าได้
แม้ปีที่แล้วผลงานภายใต้ ผู้จัดการทีมอย่าง มูริญโญ่ นั้น ก็ถือว่าไม่ได้ย่ำแย่อะไรมากมายนัก เพราะ หากนำทีมไปเทียบกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ของ เป๊บ กวาดิโอล่า นั้น ก็คงลำบากอยู่ เพราะทีมของเป๊บ ในปีที่แล้ว ทำคะแนนทิ้งห่างไปไกล นำแบบรวดเดียวจบ ไม่มีทีมไหนมาคอยเบียดแย่งแชมป์ได้เลย ในฤดูกาลที่แล้ว
การจบอันดับสอง ก็ถือว่าไม่ได้ขี้เหร่เลยสำหรับทีมอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในฤดูกาลที่แล้ว ผลงานก็ถือว่าพอใช้ได้ มองแล้วน่าจะมีอนาคตอยู่บ้าง เพราะ ผลงานที่ผ่าน ๆ มานั้น โจเซ่ มูริญโญ่ มักจะทำทีมได้แชมป์บอลลีก อยู่เสมอ ไม่ว่าคุมทีมใดมาก็ตามในอดีต และใช้เวลาไม่เกิน 3 ปี สถิติของเค้าชัดเจนมากว่า ต้องได้แชมป์บอลลีก ภายใน 3 ปีหลังคุมทีม
แต่กับ พรีเมียร์ลีก ปีนี้ ผลงานมันกลับตรงข้ามอย่างชัดเจน รูปแบบการเล่นสไตล์ เน้นตั้งรับของมู นั้น ต้องบอกว่า แฟน ๆ แมนยู ไม่ได้ชอบเป็นทุนเดิมอยู่แล้วด้วยซ้ำ แต่ถ้าผลงานมันยังดีอยู่ แฟน ๆ ก็อาจจะยังพอรับได้ แต่ปัญหาคือ ปีนี้ ผลงาน ตกต่ำ ดำดิ่ง ลงอย่างเห็นได้ชัด
แม้ตัวผู้เล่นใหม่ ที่ได้มา นั้น อาจจะไม่ได้ดั่งใจ มูริญโญ่ เสียทีเดียว แต่ก็ต้องบอกว่า ทีมชุดนี้ของแมนยู นั้น ก็ไม่ได้มีขุมกำลังที่ย่ำแย่ ไปกว่าทีมลุ้นแชมป์อื่น ๆ เลย ไม่ว่า จะเป็น เชลซี , อาเซน่อล ลิเวอร์พูล หรือ สเปอร์ ตัวผู้เล่นของแมนยู ที่มีอยู่นั้น ก็ไม่ได้ขี้เหร่ไปกว่าทีมเหล่านี้เลยด้วยซ้ำ มีแค่ แมนซิตี้ เจ้าบุญทุ่มตัวจริง เท่านั้น ที่ดูจะมีขุมกำลังเหนือกว่าชาวบ้านเขาอยู่ เพราะเป๊บต้องการใคร เหล่าผู้บริหาร ก็จัดมาให้เป๊บได้ทันที ไม่ต้องต่อรองเจรจาอะไรมากนัก
แต่การหล่นลงไปอยู่ถึงอันดับ 7-8 และแทบจะหมดลุ้นแชมป์ตั้งแต่ต้นฤดูกาล เป็นสิ่งที่แฟน ๆ แมนยู รับไม่ได้เป็นอย่างยิ่ง และดูเหมือน มูริญโญ่ ก็ไม่ได้สนใจอยู่แล้ว เพราะเค้าไม่ลาออกอย่างแน่นอน เหมือนสมัยรับงานทีมอื่น ๆ ที่ผ่านมา ทางเดียวที่เค้าจะออกได้ คือ ปลดเค้าออกจากตำแหน่งเท่านั้น และก็ต้องเสียเงินชดเชยให้อีกมากโขเลยทีเดียว ซึ่งเป็นสิ่งที่ มูริญโญ่ ทำมาตลอดหากผลงานย่ำแย่ เค้าก็จะดื้ออยู่ต่อ โดยไม่สนใจอะไรใด ๆ ทำทีมต่อไปเรื่อย ในสไตล์เดิม ๆ รอถูกไล่ออกเพียงเท่านั้น
และสุดท้าย บอร์ด ก็ต้องปลดมูริญโญ่ ออกเสียที เพราะเสี่ยงต่อความตกต่ำ ที่เกินจะรับได้อีกต่อไป ซึ่งมันเป็นผลโดยตรง กับ มูลค่าของทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมที่มีฐานแฟนบอลมากที่สุด อันดับ ต้น ๆ ของโลก หากสถานการณ์ย่ำแย่ไปกว่านี้ มันมีผลต่อเรื่องธุรกิจ เรื่องรายได้ของสโมสร ซึ่งเป็นที่มาของการยอมเสียเงินชดเชย เพื่อไล่ มูริญโญ่ ออกสถานเดียว
และคนที่เข้ามาแทน ก็ถือว่า เซอร์ไพรซ์ แฟน ๆ ไม่ใช่น้อย กับ อดีตนักเตะเก่าอย่าง โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ ที่เข้ามารับงานแบบชั่วคราว จนจบฤดูกาลเท่านั้น ต้องเรียกได้ว่า ตอนนี้ก็แทบจะไม่เหลือตัวเลือกให้แมนยูมากนัก จึงต้องเสี่ยงใช้อดีตนักเตะ ที่เข้าใจ แมนยู ดีอย่าง โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์
และแน่นอน คนที่มีบทบาทสำคัญในการเลือก กุนซือ ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน คงเป็น ท่าน เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน นั่นเอง ที่เริ่มทนเห็นความตกต่ำของแมนยูไม่ไหวแล้ว แม้ท่านเซอร์ จะมีอาการป่วยจากเส้นเลือดในสมองถึงกับต้องเข้าโรงพยาบาลไปก็ตาม แต่หลังจากหาก ท่านก็ยังเข้ามาชมเกมส์ในสนามอย่างสม่ำเสมอ
และยังให้อดีต ผู้ช่วยอย่าง ไมค์ ฟีแลน ทีมงานของท่านเซอร์ มาช่วยเหลือ โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ เพื่อช่วยประคองทีมแมนยู ในสถานการณ์ที่ย่ำแย่ ในตอนนี้ และผลงาน สี่นัดแรกภายใต้ กุนซือใหม่อย่า โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ มันก็พิสูจน์แล้วว่า บอร์ด บริหาร คิดได้อย่างถูกต้อง
จิตวิญญาณ แห่งชัยชนะของแมนยู กลับมาอีกครั้ง ก็ต้องบอกว่าเหลือเชื่อมาก ๆ เพราะทีมชุดนี้ ก็เป็นชุดเดียวกับที่ มูริญโญ่ คุม แต่ผลงานในสนามมันช่างแตกต่างกันสิ้นเชิง ทุกคนต่างร่วมแรงร่วมใจกันเล่น และที่สำคัญ ยังเล่นแบบเน้นเกมส์รุก ซึ่งเป็นสไตล์เดิมกับยุคท่าน เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ไม่ได้เน้นที่เกมส์รับ ที่แฟน ๆ ผีแดงเบื่อหน่ายเหมือนสมัย มูริญโญ่
มันคือเรื่องของ จิตวิญญาณ รวมถึง แท็คทิก ของกุนซือล้วน ๆ มันบ่งบอกได้ชัดว่า ทีมแมนยู ชุดนี้ ก็มีดีไม่แพ้ทีมไหน นักเตะที่ไม่ได้ขี้เหร่เลยด้วยซ้ำ รวมถึงการกลับมาคืนฟอร์มของ ป็อกบา นั้นก็เห็นได้อย่างชัดเจนว่า มูริญโญ่ ไม่เหมาะกับสไตล์ของแมนยู มากขนาดไหน
นอกจากนี้โชลชาร์ ยังช่วยให้ทีมเล่นอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น สามารถดึงศักยภาพของนักเตะแต่ละคนออกมาได้อย่างดี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ปอล ป็อกบา , อันเดร์ เอร์เรร่า , วิคตอร์ ลินเดเลิฟ , มาร์คัส แรชฟอร์ด และแม้กระทั่งตัว โรเมลู ลูกากู ที่ฟอร์มออกทะเลไปก่อนหน้านี้ สามารถที่จะสำแดงฤทธ์เดชออกมาแบบผิดหูผิดตา แตกต่างจากตอนที่ มูรินโญ่ ยังกุมบังเหียนอยู่อย่างชัดเจน
ถึงแม้การชนะ 4 นัดแรกนั้น เป็นการชนะทีมที่มีศักยภาพต่ำกว่า แทบจะทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น คาร์ดิฟฟ์ ฮัดเดอร์ฟิลด์ บอร์นมัธ หรือ นิวคาสเซิ่ล ในนัดล่าสุด แต่ก็ต้องบอกว่า รูปเกมส์นั้น เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ และการชนะ 4 นัดรวดแบบนี้ ทำให้เรียกความมั่นใจให้กับนักเตะได้มากโขเลยทีเดียว ถึงตอนนี้ แมนยู ก็พร้อมที่จะชนกับทุกทีม ไม่ว่าหน้าไหน เรียกได้แมนยู ก็พร้อมจะสู้แล้วนั่นเอง
การเล่นเกมส์รุกแบบ ทำประตูให้ได้มากกว่าเสีย นั้น เป็นสไตล์ ดั้งเดิมของแมนยู ที่แฟน ๆ ถวิลหามานาน การเล่นกันง่าย ๆ ไม่ต้องครองบอลมากมายแบบทีมของเป๊บ แต่เป็นการรุก ที่มีประสิทธิภาพ พาบอลไปข้างหน้าไปลุ้นกันหน้าประตูฝ่ายตรงข้าม เป็นสิ่งที่หายไปจากแมนยู มานานแสนนานแล้วก็ว่าได้
ต้องเรียกได้ว่า DNA ของ แมนยู ฉบับ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน นั้นกำลังกำลังกลับมาแล้ว และ เกมส์พรีเมียร์ลีกนัดต่อไปที่จะพบกับสเปอร์ จะถือเป็นเกมส์ที่พิสูจน์ ฝีมือ โซลชาร์ ของจริงว่า จะสามารถที่จะนำแมนยู กลับมายิ่งใหญ่ได้อีกครั้งหรือไม่ หรือ 4 เกมส์แรก มันเป็นเพียงแค่ภาพลวงหลอกแค่เท่านั้น เราก็ต้องมารอพิสูจน์ กันต่อไป แต่อย่างไรก็ตาม ตอนนี้แฟน ๆ แมนยู ก็ถือว่าได้กลับมามีความสุขกับการเล่นของทีมอีกครั้ง แค่นี้ก็ถือเป็นความสุขมาก ๆ แล้วสำหรับแฟน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
เขียนและเรียบเรียงโดย : ด.ดล
ติดตาม ShirtLocker.co เพิ่มเติมได้ที่
เสื้อบอลคลาสสิค ผ้าพันคอ เข็มกลัด ลายเซ็นต์นักบอล หายากมากมาย
แค่เพิ่มเพื่อนไลน์แอด ให้คุณได้รู้ข่าวก่อนใคร มีรางวัลแจกทุกวัน กดที่ลิงค์นี้ครับ
Line : https://line.me/R/ti/p/@shirtlocker.co
Facebook : facebook.com/shirtlocker.co
Website : www.shirtlocker.co
Blockdit :blockdit.com/shirtlocker.co
Twitter :twitter.com/ShirtlockerCo
Instragram :instragram.com/shirtlocker.co