ขาดสมอง ไร้หัวใจ ราชันก็ไปไม่เป็น
ถ้าเปรียบทีมฟุตบอลเหมือนร่างกายมนุษย์ กุนซือที่ดีอย่าง ซีดาน ก็เปรียบเหมือนมันสมองที่ใช้ประมวลผลสั่งงานทีม ให้ขับเคลื่อนไปในทิศทางตาม tactics ของกุนซือที่ต้องการเพื่อชัยชนะของทีม
แล้วหัวใจล่ะ? ก็เป็นการเปรียบเทียบไม่เกินเลยไปนัก ถ้าจะบอกว่า โรนัลโด้ นั่นแหละ คือหัวใจหลักของ รีล มาดริด ตลอดที่รับใช้สโมสรมากว่า 9 ปี ทั้งยิง ทั้ง assist ทำลายทุกสถิติที่เคยมีมาของราชันชุดขาว รีล มาดริด กวาดถ้วยแชมป์มาแล้วมากมายตลอดการรับใช้สโมสร
รีล มาดริด เริ่มต้นฤดูกาลนี้ได้ไม่ดีอย่างที่ควรจะเป็น ผิดกับปีก่อนๆ ถึงแม้ว่าจะรั้งรองจ่าฝูง ลาลีกา ในเวลานี้ก็ตาม
ก่อนฤดูกาลจะเริ่มขึ้น ได้มีข่าวใหญ่ที่ต้องบอกว่าทำเอาช็อคทั้งแฟนบอลราชันขุดขาว และ คนดูบอกทั่วโลก ด้วยการประกาศลาออกจากตำแหน่งของ เฮดโค้ชอย่าง ซีเนอดีน ซีดาน โค้ชที่นำความสำเร็จมาสู่สโมสรมาเป็นอย่างมากตลอดระยะเวลา 3 ปีในตำแหน่งของเขา
การลาออกครั้งนี้ถือเป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญของเจ้าตัวและสโมสร เพราะตลอด 3 ปีก่อนนี้ เขาพาทีมกวาดมาแล้วทุกแชมป์มาแล้วมากมาย อีกทั้งยังสร้างประวัติศาสตร์เป็นผู้จัการทีมคนแรกที่สามารถคว้าแชมป์ UCL ได้ถึง 3 สมัยซ้อน
การพาทีมมาจนถึงขั้นนี้ต้องบอกว่าเป็นจุดสูงสุดแล้วในฐานะผู้จัดการทีม จากนี้ที่แห่งนี้คงไม่มีความท้ายทายสำหรับเขาแล้ว ทางออกที่ดีที่สุด คงต้องออกไปหาความท้าทายใหม่ๆ และก็เป็นอะไรที่น่ายินดียิ่งที่ทั้งเจ้าตัวกับสโมสรหาข้อสรุปได้ด้วยดีทั้ง 2 ฝ่าย
หลังจากนั้นไม่นาน รีล มาดริด ก็ได้ประกาศว่าพวกเขาได้ผู้จัดการทีมคนใหม่แล้ว นั่นก็คือ ยูเลน โลเปเตกี ซึ่งก็ไปดึงมาจากการเป็นโค้ชของสเปนในเวลานั้น ทำให้สมาคมฟุตบอลสเปนต้องประกาศปลดออกจากตำแหน่งอย่างกระทันหัน ก่อนที่ฟุตบอลโลกจะเริ่มขึ้นแค่วันเดียว
สาเหตุอีกอย่างหนึ่งที่ปฎิเสธไม่ได้คือ การลาทีมของคริสเตียโน่ โรนัลโด้ กองหน้าตัวเก่งของทีม ไปให้กับ ยูเวนตุส ยักษ์ใหญ่จากอิตาลี่ การเสียโรนัลโด้ ครั้งนี้ดูผิวเผินเหมือนกับเสียคนที่ทำประตูให้กับสโมสรไป มองง่ายๆ เหมือนว่า ปีหน้าพวกเขาอาจจะมีสถิติการยิ่งประตูลดลงครึ่งหนึ่งก็ว่าได้ เพราะตลอดเวลา 9 ปีที่ โรนัลโด้ รับใช้สโมสร เค้าได้ยิงประตูไปอย่างมากมาย รวมประตู สำคัญ ๆ ในนัดชี้เป็นชี้ตาย ที่ต้องอาศัย ซุปเปอร์สตาร์อย่างโรนัลโด้เท่านั้น ที่จะพาทีมเอาชนะไปได้ และได้กลายเป็นคนที่ทำประตูสูงสุดตลอดกาลของรีล มาดริด คนปัจจุบัน
การมาของ โลเปเตกี ถือว่าเป็นการเสี่ยงอยู่ใม่ใช่น้อย เพราะเจ้าตัวยังไม่เคยคุมทีมใหญ่ระดับนี้มาก่อน ดีสุดก็คุมทีมชาติสเปนไปฟุตบอลโลกครั้งล่าสุดได้
การเสริมทัพของราชันชุดขาวปีหน้าถือว่าไม่ได้มีอะไรที่น่าหวือหว่า การเสริมผู้เล่นที่น่าสนใจหน่อยก็คงเป็นในรายของ อดีตเด็กเก่าอย่างมาเรียโน่ ดีแอส ที่มาถึงก็จัดการสวมเบอร์ 7 สานต่อความยิ่งใหญ่เลย แต่จะทำได้เหมือนในรายของโรนัลโด้ได้ไหมนั้น คงต้องดูกันไปยาวๆ แต่ก็เป็นการเสี่ยงไม่น้อย ที่ไม่มีการเสริมทัพซุปเปอร์สตาร์ใด ๆ เลย ทั้งที่เพิ่งจะเสีย ซุปเปอร์สตาร์เบอร์หนึ่งของทีมอย่าง โรนัลโด้ ออกไป
โลเปเตกี และ รีล มาดริด ผลงานเริ่มเป๋ ตั้งแต่นัดแรกอย่างเป็นทางการเลย ด้วยการลงแข่ง ยูฟ่า ซุปเปอร์ คัพ กับ คู่ปรับร่วมเมืองอย่าง แอตเลติโก่ มาดริด และบทสรุปพวกเขากลายเป็นฝ่ายพ่ายไปถึง 2-4 นับเป็นสิ่งที่น่าเสียดาย เพราะถ้าสามารถชนะได้นั้น จะเป็นการคุมที่นัดแรกอย่างเป็นทางการของ โลเปเตกี ที่สามารถเป็นแชมป์ได้เลย คล้ายกับในรายของซีดาน ที่เคยทำได้
ไม่ใช่แค่นั้น เพราะในลาลีกาเองพวกเขาก็ทำผลงานไม่ได้ดีเท่าที่ควร ด้วยการเล่นไปแล้ว 8 นัด ชนะ 4 เสมอ 2 แพ้ 2 รั้งรองจ่าฝูง โดยเพาะใน 3 นัดล่าสุดที่จบด้วยการแพ้ให้กับ เซบีย่า 0-3 เสมอกับ แอต. มาดริด 0-0 และแพ้ทีมฟอร์มแรงอย่าง อลาเบส 1-0 ทั้งๆ ที่ควรจะทำได้ดีกว่านี้เพราะปีนี้ บาเซโลน่าเองก็ทำผลงานไม่ดีเหมือนกัน ทำให้ยังรั้งรองจ่าฝูงของตารางได้
ในขณะเดียวเหมือนพวกเขายังคงเมาหมัดอยู่ เพราะใน UCL นัดล่าสุดพวกเขากลับบุกไปพ่าย ซีเอสเคเอ มอสโก 1-0 ทั้งๆ ที่เจ้าถิ่น เหลือผู้เล่น 10 คน ก็ตาม ทำให้การลุ้นเข้ารอบ 2 ก็ดูจะไม่ง่ายอย่างที่คิดแล้วล่ะ อดีตแชมป์ 3 สมัยติดต่อกัน ดูทีท่าแล้วปีนี้ไ่ม่มีทีมไหนกลัวมาดริด เหมือนเมื่อก่อนอีกต่อไป
ถ้าสังเกตกันให้ลึกไปอีกนั้น จะพบว่า 4 นัดหลังสุดรวมทุกรายการ ราชันชุดขวาไม่สามารถคว้าชัยชนะได้เลย โดยแพ้ไปถึง 3 เสมอ 1 และตลอดทั้ง 4 นัดพวกเขาเสียไปถึง 5 ประตู แต่ยิงไม่ได้เลย ถือเป็นการยิงประตูไม่ได้เลย 4 นัดติด ครั้งแรกในรอบ 33 ปี โดยคราวนั้นพวกเขาทำสถิติยิงประตูคู่แข่งไม่ได้ยาวนานถึง 5 นัดติด ถ้าดูฟอร์มตอนนี้ มีโอกาสที่อาจะเปงเช่นนั้นอีกรอบ
ผลพวงจากที่ไม่สามารถทำประตูได้นั้นทำให้แฟนๆ คงอดคิดถึงอดีตผู้เล่นอย่างโรนัลโด้ ไม่ได้ เพราะจะยังถ้านึกอะไรไม่ออกก็อย่างน้อยจะได้โรนัลโด้ นี่แหละช่วยก็หน้าให้ทีม แต่ปีนี้พอโรนัลโด้ไม่อยู่แล้วนั้นทำให้ทีมขาดตรงนี้ไป คนอื่นก็ยังไม่มีใครสามารถจะทดแทนตรงนี้ได้
สุดท้ายคงต้องหวังว่า พวกเขาจะทำผลงานให้กลับมาอยู่ในจุดที่ควรจะเป็นให้ได้โดยเร็วที่สุด เพราะถ้ายังหาทางกลับไม่เจอ หรือใช้เวลาในการปรับจูนทีมนานเกินไปแบบนี้ มองดูแล้ว ปีนี้คงเป็นปีที่แฟนๆต้องเผื่อใจไว้หน่อย เผื่อไม่ประสบความสำเร็จตามที่ควรจะได้ไม่ต้องมานั่งเสียใจมากนัก …
เขียนและเรียบเรียงโดย : มินวัง