โรนัลด์ คูมัน ผู้ปลุกยักษ์หลับ ให้ตื่นอีกครั้ง
โรนัลด์ คูมัน ผู้ปลุกยักษ์หลับ ให้ตื่นอีกครั้ง
ทีมชาติเนเธอร์แลนด์ ตกเป็นที่พูดถึงเป็นอย่างมากหลังจากที่พวกเขาไม่ผ่านรอบคัดเลือกฟุตบอลโลก 2018 แต่หลังจากฟุตบอลโลกปิดฉากลงไม่นานจากนั้นพวกเขาก็สามารถกลับมาทำผลงานได้ดีอีกครั้งภายใต้ผู้จัดการทีมคนใหม่และไฉไลกว่าเดิม
หลังจากที่ฟุตบอลทีมชาติเนเธอร์แลนด์ครองความเป็นพี่ใหญ่ของยุโรปมาเป็นเวลานาน แต่ที่สุดแล้วก็เกิดสะดุดจนได้ เมื่อฟุตบอลของพวกเขาไม่ได้พัฒนาไปข้างหน้าแต่อย่างใด ขาดความต่อเนื่องของตัวผู้เล่นที่จะมาทดแทนพึ่งแต่บรรดาผู้เล่นประสบการณ์สูงที่มีอายุมากเกินไป ไปสู้กับชาติอื่นที่ส่วนใหญ่ไปเน้นกับสายเลือดใหม่กันแล้ว
ทำให้ในรอบสุดท้ายนับตั้งแต่ฟุตบอลยูโร 2016 ยาวไปจนถึง ฟุตบอลโลก 2018 ที่ผ่านมา ทั้ง 2 รายการใหญ่นี้ ไม่มีชื่อของของพวกเขาในทัวร์นาเม้นนั้น ร่วมฟาดแข้ง เนื่องจากต้องกระเด็นตกรอบคัดเลือกไปก่อน
ในส่วนของฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกนั้นหลังจากที่ทีมไม่สามารถผ่านรอบคัดเลือกไปได้นั้น ทำให้ ดิ๊ก อัดโวคาท ต้องรับผิดชอบด้วยการลาออกไปในที่สุด
จนต่อมาได้มีการแต่งตั้งผู้จัดารทีมคนใหม่ของทัพอัศวินสีส้ม คือ โรนัลด์ คูมัน ต้องบอกว่าเป็นการรับงานที่เสี่ยงมาก เพราะผู้จัดการทีมเนเธอร์แลนด์เวลานั้นก็เผือกร้อนดีๆ นี่เองที่ใครๆ ต่างก็ไม่อยากจะรับมัน
แต่สำหรับเขาคงไม่ได้คิดแบบนี้ เพราะก่อนหน้านี้เขาเองเพิ่งจะโดนเอฟเวอตันปลดจากตำแหน่งผู้จัดการทีมไป หลังจากที่ทำผลงานไม่ดีเอาซะเลยผิดกับเงินที่สโมสรลงทุนไป
เลยกลายเป็นอะไรที่ประจวบเหมาะ ทีมชาติเนเธอร์แลนด์จำเป็นต้องมีนายใหญคนใหม่ และในเวลานั้นไม่มีคนอื่นแล้วจำเป็นเลือกเขาเพราะในขณะนั้นไม่มีใครกล้ามารับงานคุมทีม ถ้าทำทีมผลงานไม่ดีก็ปลดและทีมเองก็ไม่ได้เสียอะไรเพราะผลงานก่อนหน้านี้ไม่ดีอยู่แล้ว แต่ถ้าทำทีมผลงานดีรับรองจะกลายเป็นการกลับมากู้หน้าของชาติมหาอำนาจอีกครั้ง
ในมุมของ คูมัน เองคงคิดว่าไม่มีอะไรจะเสียถ้าทำทีมผลงานไม่ดีอย่างมากก็โดนปลด เสมอตัว ซึ่งสำหรับเขาก็อาจจะไม่ได้กระทบอะไรมาก แต่ถ้าทำทีมผลงานดี รับรองงานนี้เกิดแน่นอน คิดไปคิดมาแล้ว win win ทั้งคู่ทั้งในมุมของทีมชาติและตัวเขาเอง
แต่การคุมทีมนัดแรกก็เอาเรื่องซะแล้ว ถึงแม้จะเป็นกระชับมิตรก็ตาม โดยการแพ้ต่อทีมชาติอังกฤษถึงจะแพ้ แต่ก็ยังมีอะไรดีๆ ให้เห็นเยอะมากเพราะถ้าดูสถิติแล้ว พวกเขาไม่ได้เป็นรองเลย แถมมีโอกาสทำประตูมากกว่าอีกด้วย ทำให้เกมนี้เป็นบทเรียนชั้นดีต่อ คูมัน ในการที่จะไปปรับแก้ไข เพื่อนัดต่อๆไปพวกเขาจะกลับมาทำผลงานให้ดี รองรับกับ โปรแกรม เนชั่นลีค ที่กำลังจะเริ่มในปีนี้
และก็เหมือนจะเป็นอย่างนั้นจริงๆ เพราะหลังจากเกมนนั้น 4 นัดต่อมาพวกเขาสามารถเอาชนะได้ 2 เสมอ 2 และ 2 ใน 4 นัดนนั้นเป็นการเจอกับทีมใหญ่ โดยหนึ่งในนั้นเป็นการชนะโปรตุเกสถึงถิ่นถึง 0-3 และอีกนัดเสมอกับ อิตาลี่ไป 1-1
การทำทีมของ คูมัน จำเป็นที่จะต้องผลักดันให้โอกาสตัวผู้เล่นใหม่ๆ หรือดาวรุ่งเข้าสู่ทีมเพื่อสู้กับชาติอื่นที่ส่วนใหญ่แล้วจะเน้นเป็นพวกสายเลือกใหม่ อีกทั้งบรรดาพี่ใหญ่ในทีมชาติหลายคนอายุก็เยอะมากเกินที่จะรับมือกับการแข่งขันในยุคปัจจุบัน อาทิเช่น อาเยน รอบเบน , เวสลี่ ชไนเดอ , โรบิน ฟาน เฟอซี่
แต่ก็เหมือนการเสี่ยงของเขาจะให้ผลดีตามมา เพราะบรรดาดาวรุ่งที่เขาเรียกติดทีม สามารถโชว์ผลงานได้อย่างโดดเด่นมากตามสไตล์ของเขาที่เล่นบอลกับพื้นเป็นส่วนใหญ่เน้นการครอง แม้ส่วนหนึ่งจะมาจากการเล่นดีกับสโมสรอยู่แล้วก็ตาม แต่ก็ต้องยกความดีความชอบให้ คูมัน ด้วยเช่นกันในการให้โอกาสมาเล่นทีมชาติ
โดยรวมแล้วตอนนี้ทีมชาติเนเธร์อแลนด์ ภายใต้การทำทีมของ โรนัลด์ คูมัน มีสถิติที่ดีมาก แข่งไปแล้ว 10 นัด ชนะ 4 เสมอ 4 แพ้ 2 นัด ยิงได้ 16 เสียไป 9 ประตู อีกอย่างตอนนี้ในศึกเนชั่นลีก พวกเขาก็สามารถผ่านเลื่อนชั้นเข้ารอบต่อไปได้อีกด้วย
ทั้งหมดทั้งมวลนี้ ก็ต้องยกเครดิตให้กับ โรนัลด์ คูมัน เต็มๆ การที่เข้ามารับตำแหน่งและสามารถพาทีมผ่านพ้นช่วงตกต่ำของทีมชาติมาได้ โดยที่หลายๆ คนคิดไม่ถึงและสำหรับแฟนบอลอัศวินสีส้นทั้งหลายก็คงได้แต่คาดหวังว่าเขาจะเป็นคนที่ใช่จริงๆ และพาทีมชาติไปให้ไกลกว่านี้ ไกลถึงความสำเร็จ ได้ยิ่งดี…
เขียนและเรียบเรียงโดย : มินวัง