ประวัติศาสตร์ถูกขีดเขียนโดยผู้ชนะ
จบลงเสียทีกับการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ที่เรียกได้ว่าเป็นฤดูกาลที่สูสีที่สุด ฤดูกาลหนึ่งตั้งแต่ก่อตั้งพรีเมียร์ลีกมาเลยก็ว่าได้ ด้วยการคว้าชัยไปอย่างงดงามของแมนซิตี้ ที่ไม่พลาดในนัดสุดท้ายของฤดูกาล และสามารถป้องกันแชมป์ไปได้ในที่สุด
แม้คู่แข่งอย่างลิเวอร์พูล มีทีมที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ สามารถทำแต้มได้แทบจะสูงสุดเท่าที่ทีมเคยทำมาได้ ซึ่งหากเป็นฤดูกาลปรกติ คะแนน ระดับ 97 คะแนนนั้นคงได้แชมป์ไปก่อนหน้านี้สัก 2-3 เกมส์แล้ว
แต่มันไม่ใช่ในฤดูกาลนี้ ที่ทีมของเป๊บนั้นโชว์ฟอร์มร้อนแรงต่อเนื่องในช่วงท้ายฤดูกาล สามารถทำสถิติชนะ 14 นัดรวด ก่อนปาดหน้าคว้าแชมป์ไปได้อีกสมัย เรียกได้ว่าเป็นบทพิสูจน์ว่า เป๊ป นั้นคือกุนซือตัวจริง ที่ทำทีมได้แชมป์มาทุกลีกไม่ว่าจะเป็น สเปน , เยอรมัน หรือ แม้กระทั่งลีกที่ใช้เงินกันอย่างบ้าคลั่งอย่าง พรีเมียร์ลีกเองก็ตาม
ซึ่งไม่ว่า ลิเวอร์พูลจะได้รางวัลต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ดาวซัลโว ที่ ซาล่าห์ และ มาเน่ ครองร่วมกับ โอบาเมยองของ อาเซน่อล รวมถึง สถิติ คลีนชีตของ อลิซอน เบคเกอร์ ที่สามารถทำได้สูงสุด แต่ก็ไม่อาจจะพาทีมหงส์แดงไปถึงฝั่งฝันอีกครั้ง
การพ่ายแพ้เพียงแค่นัดเดียวให้กับ แชมป์อย่างแมนซิตี้ นั้น ถือเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญของลิเวอร์พูลในฤดูกาลนี้เลยก็ว่าได้ ซึ่งในตอนแรกนั้น ลิเวอร์พูลนำห่างสูงสุดไปถึง 7 แต้ม และมีโอกาสที่จะทิ้งห่างออกไปก่อนการเจอกันระหว่างสองทีมลุ้นแชมป์ในช่วงปลายปีที่แล้ว
แต่ไม่รู้ว่าโชคชะตา หรือ ฟ้าที่กำหนดมาให้ทีมหงส์แดงนั้น อาภัพในถ้วยใบนี้มานักต่อนักแล้ว ไม่ว่าฤดูกาล 2013-2014 ที่เกิดเหตุการร์เจอร์ราด ลื่นล้มในเกมส์นัดท้าย ๆ ที่พบกับเชลซีที่เพียงขอแค่เสมอ ทีมก็มีสิทธิ์ลุ้นแชมป์อย่างแน่นอน ก่อนจะถูกแมนซิตี้ แซงในโค้งสุดท้ายปาดหน้ากลับมาคว้าแชมป์ได้สำเร็จ
และปีนี้ก็เช่นเดียวกัน สภาพทีมที่ลงตัวในทุกตำแหน่ง การเล่นสไตล์ เฮฟวี่ เมทัล ที่ไม่กลัวทีมหน้าไหนในยุโรป เพราะลิเวอร์พูลสามารถจะเอาชนะได้ทั้งสิ้น ด้วยสไตล์การเล่นที่ดุดัน การเสริมทัพที่ลงตัว ทั้งการได้ ฟาน ไดจ์ รวมถึง อลิซอน เข้ามาเสริมในเกมส์รับทำให้ทุกอย่างดูดีและลงตัวไปหมด
รวมถึงคุณสมบัติต่าง ๆ ของทีมที่ลุ้นแชมป์นั้น ลิเวอร์พูล ก็มีมาครบถ้วนในปีนี้ เกมส์ที่ใกล้จะเสมอ ก็สามารถพลิกชนะได้ รวมถึงเกมส์ที่จะแพ้ ก็ยังสามารถพลิกกลับมาเสมอได้หลายครั้งหลายครา ซึ่งเหมือนโชคชะตาจะกำหนดให้ลิเวอร์ไปถึงฝั่งฝันเสียที
แต่มันก็มีเหตุผลอันเดียว ก็คือ ทีมของเป๊บนั้น ทำผลงานได้ดีกว่า ตารางคะแนนที่ไม่เคยหลอกใคร แม้จะแพ้ไปถึง 4 นัด แต่ทีมของเป๊บสามารถเก็บชัยชนะได้เป็นกอบเป็นกำ สามารถทำแต้มแซงหน้าไปได้ในที่สุด ซึ่งสร้างความปวดใจให้กับสาวกหงส์แดงไม่ใช่น้อย กับฟอร์มของทีมที่ดีขนาดนี้ แต่ยังไม่สามารถคว้าแชมป์ได้
และแน่นอน คำว่าประวัติศาสตร์ ถูกขีดเขียนโดยผู้ชนะ นั้นเป็นจริงเสมอมา เพราะ เราก็จะจำแต่ผู้ชนะเท่านั้น สุดท้ายเมื่อเวลาผ่านไป ก็ไม่มีใครจะมาจดจำการเป็นรองแชมป์ได้ เหมือนในหลาย ๆ ประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา
เพราะฉะนั้น ตอนนี้ มันเหลือเพียงถ้วยเดียว และเป็นใบใหญ่ที่สุดของยุโรปอย่าง ยูฟ่า แชมเปี้ยนลีก เท่านั้น ที่แฟน ๆ หงส์แดงหวังที่จะมาเชยชมอีกครั้ง หลังจากห่างหายในถ้วยใบนี้มาตั้งแต่ปี 2005 การเข้าชิงหนที่สองติดต่อกัน เป็นเดิมพันครั้งสำคัญของทีมของเจอร์เกน คลอปป์ ว่าพวกเขาสามารถจะเขียนประวัติศาสตร์ด้วยการเป็นผู้ชนะในศึกเกมส์ใหญ่ครั้งนี้ได้หรือไม่ เรามารอลุ้นกันครับ ในวันที่ 1 มิถินายนี้ นะครับผม
เขียนและเรียบเรียงโดย : ด.ดล
ติดตาม ShirtLocker.co เพิ่มเติมได้ที่ เสื้อบอลคลาสสิค ผ้าพันคอ เข็มกลัด ลายเซ็นต์นักบอล หายากมากมาย
แค่เพิ่มเพื่อนไลน์แอด ให้คุณได้รู้ข่าวก่อนใคร มีรางวัลแจกทุกวัน กดที่ลิงค์นี้ครับ
Line : https://line.me/R/ti/p/@shirtlocker.co
Facebook : facebook.com/shirtlocker.co
Website : www.shirtlocker.co
Blockdit :blockdit.com/shirtlocker.co
Twitter :twitter.com/ShirtlockerCo
Instragram :instragram.com/shirtlocker.co