จากสูงสุด สู่สามัญ
ปี 2016 ต้องบอกว่าเป็นปีทองของเด็กหนุ่มที่ชื่อ เรเนโต้ ซานเชส อย่างที่ไม่มีใครปฏิเสธได้เลย จากการได้รางวัล gloden boy เป็นตัวหลักพาทีมชาติของตัวเองเป็นแชมป์ยูโร 2016 พ่วงด้วยการได้รางวัลดาวรุ่งยอดเยี่ยม
ต้องบอกว่าไม่มีอะไรจะดีไปกว่านี้แล้ว สำหรับเจ้าหนู เรเนโต้ ซานเชส เริ่มต้นเล่นฟุตบอลโดยการเป็นเยาวชนของเบนฟิก้าก่อนที่จะถูกดันขึ้นชุดใหญ่ของทีมด้วยวัยแค่ 17 ปี และผลงานในสนามก็ต้องบอกว่าตอบแทนความไว้ใจของโค้ชได้อย่างเกินความคาดหมาย จนไปเตะตาผู้จัดการทีมชาติโปรตุเกสจนต้องใส่ชื่อติดทีมไปลุยศึกใหญ่อย่างยูโร 2016
ส่วนในระดับสโมสรเจ้าตัวเองได้รับความสนใจจากยักษ์ใหญ่ของยุโรปอยู่หลายทีมในขณะนั้น กับสโมสรว่าดังแล้วแต่ระดับทีมชาติรางวัลที่เป็นที่ต้องการของเด็กหนุ่มกับการเริ่มต้นอาชีพค้าแข้งของตัวเอง อีกทั้งการเป็นตัวหลักในการพาโปรตุเกสชาติบ้านเกิดเถลิงจ้าวยุโรปเป็นสมัยแรกของชาติ อีกทั้งเจ้าตัวเองยังได้รับรางวัลดาวรุ่งยอดเยี่ยมประจำทัวนาเม้นมาครองอีกด้วย
หลังจากนั้นเด็กหนุ่มคนนี้ก็ถูกยักษ์ของยุโรปยื่นข้อเสนอไปยังสโมสรหลายทีมซึ่งตามข่าวแล้วทีมที่จริงจังต้องการตัวเขามากก็เห็นจะเป็นแมนยูไนเต็ด แต่แล้วกลับเป็นบาเยิน มิวนิค เป็นม้ามืดมาจากไหนไม่รู้ฉกตัวเขาไปอย่างหน้าตาเฉย บวกกับการให้สัมภาษณ์หลังจากย้ายไปแล้วนั้นยิ่งทำให้แฟนๆ เรดอามี่ กลับไม่สบอารมณ์ไปอีกกับคำพูดของเขากับประโยคที่ว่า “ที่เลือกย้ายมาบาเยิน เพียงเพราะต้องการความสำเร็จ”
แต่แล้วการค้าแข้งของเขาที่บาเยินกลับไม่เป็นเชกเช่นที่เขาวาดไว้เพราะเขากลับเป็นตัวเลือกท้ายๆ จากผู้จัดการทีม ไม่ได้รับโอกาสลงสนามเท่าที่ควร จนตอนนี้ถูกปล่อยยืมให้กับทีมอย่าง สวอนซี เพื่อที่ให้เขาพิสูจน์ตัวเองกับทีมที่เล็กกว่า แต่ที่สวอนซีเองตัวเขาก็กลับเป็นได้แค่ตัวสำรองอยู่ดี ไม่มีโอกาสแสดงฝีเท้าเท่าที่ควร ทำให้สวอนซีเองปีนี้ผลงานก็ไม่ดีเลยจนตกชั้นไปในที่สุด
จากที่เคยเป็นตัวหลักของโปรตุเกส มาตอนนี้กลับไม่มีชื่อ 32 คนแรกที่ติดโผไปเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายที่รัสเซีย ซึ่งจาก 32 ก็ต้องไปตัดชื่อเหลือ 23 คนสุดท้ายอีกที นั้นแสดงให้เห็นว่าเขาไม่ได้อยู่ในสายตาของผู้จัดการทีมเลยแม้แต่น้อย
สุดท้ายแล้ว เวลานี้เจ้าตัวคงต้องกลับมาคิดใหม่ ว่าเวลานั้นถ้าตัวเขาเองย้ายมาแมนยูไนเต็ดทีมที่ต้องตัวเขาและค่อยข้างที่จะการันตีตัวจริงเพราะเป็นตำแหน่งที่ยูไนเต็ดยังไม่ลงตัว เส้นทางของเขาก็อาจจะรุ่งโรจน์ก็เป็นได้ แต่เพียงเพราะต้องการความสำเร็จโดยที่ไม่ได้คิดว่าบาเยินมีสตาร์เต็มทีม การที่เขาจะไปเป็นตัวจริงนั้นค่อยข้างยากมาก เคสนี้ก็คงจะเป็นตัวอย่างได้ดีว่าทำอะไรก็ต้องให้ค่อยเป็นค่อยไป อย่าได้คิดข้ามช็อต เพราะสดท้ายแล้วถ้าตัวเราเก่งจริงความสำเร็จก็จะมาหาเอง
Credit Image : www.dreamteamfc.com